ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ คามิโคจิ 2567 (Kamikochi) เส้นทางธรรมชาติแห่งเทือกเขาเจแปนแอลป์ (Japan Alps)
สำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบธรรมชาติ สายน้ำ ภูเขา และวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ วันนี้ทาง Topline Holiday ขอนำเสนอเส้นทาง คามิโคจิ (Kamikochi) จังหวัดนากาโนะ (Nagano) โดยท่านสามารถชื่นชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาที่ขึ้นชื่อว่าเป็น แอลป์ แห่งประเทศญี่ปุ่น และศึกษาเส้นทางธรรมชาติอันสวยงาม ที่ยังสอดแทรกวัฒนธรรมเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น และที่นี่ยังได้รับยกย่องว่าเป็นสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ใครอยากรู้จักคามิโมจิเพิ่มเติม Topline Holiday ขออาสาพาทุกท่านไปรู้จักกับ คามิโคจิ แห่งจังหวัดนากาโนะกันเลยค่า go go…!
สถานที่ตั้งของคามิโคจิ
คามิโคจิ ตั้งอยู่อุทยานแห่งชาติชูบุซังกาคุ (Chubu Sangaku National Park) จังหวัดนากาโนะ โดยตั้งอยู่ที่ความสูงเฉลี่ยประมาณ 1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทอดยาวไปกับแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) และตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองมัตสึโมโต้และทาคายามะ ทำให้คามิโคจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในการเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ ซึ่งสามารถเริ่มออกเดินทางได้จากทั้ง 2 เมือง ด้วยระยะเวลาเดินทางที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับท่านใดที่อยากพักในคามิโคจิ เพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงามนี้ ภายในอุทยานก็มีที่พักให้ท่านสามารถเข้าพักได้ แต่…! ราคาค่อนข้างสูง สำหรับใครที่มีกำลังทรัพย์ ทางทอปไลน์ก็อยากนะนำให้ลองพักสักหนึ่งคืน เพื่อชื่นชมบรรยากาศยามค่ำคืนและสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกันไปเลยค่า
ช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าชมคามิโคจิ
เวลาที่ทางอุทยานจะเปิดให้ท่องเที่ยวคามิโมจิได้ คือช่วงกลางเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเท่านั้น
ช่วงแรกถึงประมาณเดือนพฤษภาคม ท่านจะยังสามารถพบเห็นหิมะที่หลงเหลืออยู่ อากาศจะมีอุณหภูมิต่ำถึงเลขตัวเดียว ร้านค้าและโรงแรมบางแห่งจะยังไม่เปิดให้บริการ เมื่อผ่านช่วงวันหยุดโกลเด้นวีคของญี่ปุ่น ช่วงเดือนมิถุนายนอากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น และต้นไม้จะเริ่มเขียวขึ้น
ฤดูร้อนที่คามิโมจิจะเริ่มช่วงเดือนกรกฎาคม-กลางเดือนกันยายน อุณหภูมิเฉลี่ย 13 - 24 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การเดินชื่นชมธรรมชาติแบบสบายๆเพลินๆ วิวทิวทัศน์จะเป็นยอดเขาและต้นไม้สีเขียวขจี ท่านที่มีวันหยุดยาวในช่วงหน้าร้อนญี่ปุ่น คามิโมจิถือเป็นจุดหมายหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ทางท็อปไลน์แนะนำว่าควรเลี่ยงท่องเที่ยวช่วงวันหยุดโอบ้งของญี่ปุ่น (11-16 สิงหาคม) เพราะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันมากที่สุดพอๆกับช่วงโกลเด้นวีคเลยค่า
ฤดูใบไม้ร่วงจะเริ่มปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน อากาศจะอยู่ที่ - 0.4 – 18 องศาเซลเซียส ช่วงนี้ต้นไม้จะเข้าสู่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางกันมาชมความงามกันหนาแน่น โดยต้นไม้มีสีสันสดใสตัดกับลำน้ำใสสะอาด ช่วงที่แนะนำสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีจะเริ่มช่วงกลางเดือนตุลาคม และจะเริ่มปิดช่วงท่องเที่ยวกลางเดือนพฤศจิกายน ช่วงฤดูนี้มักจะมีพายุไต้ฝุ่น ดังนั้นก่อนเดินทาง ท็อปไลน์แนะนำให้เช็คสภาพอากาศให้ดีก่อนนะคะ
ฤดูหนาว ในช่วงเดือนธันวาคม - มีนาคม ทางอุทยานจะปิดเส้น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถเดินทางได้น๊า เพียงต้องติดต่อทางอุทยานเพื่อขอท่องเที่ยวโดยการเดินเท้าเข้าอุทยาน และต้องมีไกด์ท้องถิ่นนำทางเท่านั้น ช่วงดังกล่าวทางอุทยานไม่อนุญาตให้รถบัสเข้าพื้นที่ เนื่องจากมีหิมะหนาแน่น ทำให้ต้องเดินเท้าฝ่าพื้นหิมะเพื่อเข้าอุทยานเป็นระยะ 5-6 กิโลเมตร ท่านใดสนใจแนะนำให้หาข้อมูลก่อนเดินทางกันก่อนนะค๊า...!
เส้นทางในคามิโคจิ
มีเส้นทางประมาณ 9.2 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาพักและถ่ายรูป) โดยอาจจะเริ่มจากลงรถบัสที่ บึงไทโช à บึงทะชิโระ à สะพานโฮกาตะ&ทะชิโระ à สะพานคัปปะ à บึงเมียวจิน à สะพานคัปปะ à ท่ารถบัสคามิโคจิ
อีกเส้นทาง อาจจะเริ่มจากท่ารถบัสคามิโคจิ แล้วไปทางบึงเมียวจิน เดินกลับตามแผนที่ไปจบที่บึงไทโช ก็ได้เช่นกัน
การเดินทาง
- จากโตเกียว
ขึ้นรถบัสที่สถานีชินจูกุ (Shinjuku Expressway Bus Terminal) ให้บริการวันละ 2 รอบ หรือจะออกเดินทางจากชิบุย่า และ คาวาโกะเอะ โดยจะมีเพียงวันละ 1 รอบ โดยใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 5-7 ชั่วโมง
ขึ้นรถไฟ JR limited express AZUSA ตรงสถานีชินจูกุ หรือรถบัส Alpico เพื่อไปลงสถานีมัตสึโมโตะ (Matsumoto Station) จากนั้นต่อรถบัสเข้าคามิโคจิอีกประมาณ 1.50 ชั่วโมง
- จากโอซาก้า
ขึ้นรถบัสสายโอซาก้า-คามิโคจิ มีให้บริการวันละ 2 รอบ โดยใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 6.5-7 ชั่วโมง
- จากมัตสึโมโต้
ขึ้นรถไฟจากสถานีมัตสึโมโต้ ไปลงสถานีชินชิมะชิมะ 30 นาที ต่อรถบัสเข้าคามิโคจิ 1 ชั่วโมง
- จากทาคายามะ
ขึ้นรถบัสไปลงฮิรายุออนเซ็น 1 ชั่วโมง และต่อรถบัสเข้าคามิโคจิ 30 นาที
*ถ้าเป็นรถยนต์ส่วนตัว จะไม่อนุญาตให้นำเข้าไปภายในอุทยาน ต้องจอดที่สะวันโด (Sawando) หรือ อะคันดานะ (Akandana) และต่อรถบัสเข้าคามิโคจิ