20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ สายการบิน THAI AIR ASIA X (XJ) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก
01.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน THAI AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ 612 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 5.10 ชั่วโมง
08.40 น. คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติคันไซ ประเทศญี่ปุ่น (**เวลาที่ประเทศญี่ปุ่นจะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม. ควรปรับนาฬิกาของท่านเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโอซาก้า (Osaka) เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ บนเกาะฮอนชู ปัจจุบันเมืองโอซาก้า มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีทั้งแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม และมีสวนสนุกระดับโลกขนาดใหญ่ จากนั้นนำท่านสู่ ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine) อยู่ในย่านนัมบะของเมืองโอซาก้า มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างหัวสิงโตปั้นหน้าตาดุดันขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า ด้วยความสูง 17 เมตร ความกว้าง 11 เมตรและความลึก 7 เมตร โดยเชื่อกันว่าปากของสิงโตตัวใหญ่นั้นจะสามารถกลืนกินสิ่งไม่ดีต่างๆ ปัดเป่าความชั่วร้ายให้หายไป และนำพามาโชคลาภเข้ามา ซึ่งกลายเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาสักการะขอพระเรื่องการเรียนหรือด้านการงานให้เกิดความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง อีกทั้งด้วยงานปั้นสิงโตที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นแม้จะมีใบหน้าท่าทางที่จะดูดุไปอยู่บ้างก็กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมสำหรับผู้คนที่มาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้เลยทีเดียว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) เมืองซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นในอดีตร่วมกว่า 1,100 ปี จึงทำให้เมืองเกียวโตแห่งนี้ มีสถานที่สำคัญๆ ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นมากมาย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
จากนั้นนำท่านสู่ วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu-dera) หรือ “วัดน้ำใส” เป็นวัดเก่าแก่บนเนินเขาที่มีอายุเก่าแก่กว่าตัวเมืองเกียวโต ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด แต่ที่น่าสนใจ คือ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยเสาไม้จำนวนร้อยกว่าต้น สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว โดยใช้วิธีเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณนั่นเอง จากระเบียงแห่งนี้สามารถถ่ายภาพ ณ จุดที่สวยที่สุดในกรุงเกียวโต มองเห็นวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองเกียวโตได้งดงามพร้อมกับวิหารของวัดคิโยมิสึ จากนั้นให้ท่านช้อปปิ้ง ณ ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) เป็นย่านการค้าที่ถือว่าฮอตฮิตมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต โดยย่านนี้จะตั้งอยู่บริเวณที่เป็นเนินเขาทางตะวันออกของเกียวโต เต็มไปด้วยร้านค้าจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านของกินเล่น ร้านขายสินค้าต่างๆ และร้านขนมพื้นเมือง พูดได้เลยว่ามีให้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมด สิ่งที่ทำให้ยานนี้มีเสน่ห์มากที่สุดก็น่าจะเป็นรูปแบบอาคารบ้านเรือนร้านค้าที่ยังคงความเก่าแก่เป็นสไตล์โบราณ อิสระให้ท่านได้เดินเล่น เลือกซื้อ เลือกดูของตามอัธยาศัย นำท่านสู่เมืองอาราชิยาม่า เพื่อนั่งรถไฟสายโรแมนติกซากาโนะ (Sagano Torokko Train) เป็นรถไฟที่วิ่งบนเส้นทางสำหรับชมวิวยอดนิยมในเกียวโต โดยใช้รถไฟเครื่องจักรไอน้ำแบบเก่ารุ่นคลาสสิค วิ่งในบริเวณอาราชิยาม่า คู่ขนานไปกับแม่น้ำโฮซุกาวะ เป็นระยะทางกว่า 7.3 กิโลเมตร โดยสองข้างทางจะเห็นวิวภูเขา และแม่น้ำ ผ่านหุบเขา นอกจากจะมานั่งรถไฟแล้ว ยังมีแลนด์มาร์คอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น เดินเล่นในบรรยากาศเมือเก่า หรือจะช้อป และชิมขนมท้องถิ่นต่างๆมากมาย นำท่านสู่ “ป่าไผ่อาราชิยาม่า” โดยที่ตลอดเส้นทางทั้งสองข้างนั้น ถูกขนาบด้วยป่าไผ่ ให้ความร่มรื่นเรียงรายสุดลูกหูลูกตา ซึ่งเป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตที่อยู่หลังวัดเทนริวจิ รวมทั้งแม่น้ำโฮซูกาวะ และให้ทุกท่านสามารถเก็บภาพที่ริมแม่น้ำบริเวณ สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นอะไรที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดหากได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยบรรยากาศดีที่เหมาะแก่การพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์เป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองนาโกย่า (Nagoya) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูบุ (Chubu) และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น ขึ้นชื่อในเรื่องแหล่งอุตสาหกรรม และยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญอีกด้วย อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ณ ย่านซากาเอะ (Sakae) ย่านการค้าแห่งใหญ่ และทันสมัยที่สุดของนาโกย่า เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ รวมไปถึงร้านแบรนด์เนมมากมายที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ให้ได้เลือกสรรมากมาย
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก COMFORT HOTEL NAGOYA FUSHIMI หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
**พักโรงแรมในย่านช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (2)
จากนั้นนำท่านเข้าชม ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) หนึ่งในปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในยุคเริ่มต้นสมัยเอโดะ อาคารปราสาทส่วนใหญ่ถูกทำลายในการโจมตีทางอากาศในปี ค.ศ.1945 ต่อมาได้รับการฟื้นฟูสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กในปี ค.ศ.1959 จนมาถึงปัจจุบัน ภายในมีพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัย จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของปราสาท สวนหย่อมรอบปราสาทแบ่งเป็น 2 ชั้น คือ คูเมือง และกำแพงป้อมปราการ นอกจากส่วนของหอคอยปราสาทแล้ว ก็ยังมีโซนที่เป็นพื้นที่พระราชวังเอาไว้ให้โชกุนได้พักอาศัย ซึ่งเป็นอาคารไม้ญี่ปุ่นแบบโบราณขนาดใหญ่ พร้อมการตกแต่งภายในที่สวยงามมาก แบ่งเป็นห้องต่างๆ มากมายให้เดินชม จากนั้นนำท่านสู่ เมืองโบราณมาโกเมะจูกุ (Magome-juku) เส้นทางการค้าโบราณมีอายุกว่า 400 ปี ถือเป็น 1 ในเมืองพักแรม 69 แห่งในสมัยก่อน ย้อนเวลากลับไปสมัยเอโดะ (ประมาณ 400 ปีก่อน) เวลาผู้คนเดินทางไปมาระหว่างโตเกียวกับเกียวโต นั้นไม่ได้สะดวกสบายมีชินคังเซนนั่งสบายอย่างทุกวันนี้ สมัยก่อนการเดินใช้วิธีการเดินเท้าเป็นหลัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 วัน ซึ่งหนึ่งในเส้นทางสำคัญที่เชื่อมระหว่างโตเกียวกับเกียวโตก็คือถนนนากาเซ็นโด (Nakasendo) และแน่นอน มาโกเมะจูกุที่นี่ ก็คือชื่อของหนึ่งในจุดพักแรมที่มีมากกว่า 60 แห่งบนเส้นทางสายนี้ ซึ่งในปัจจุบัน เมืองพักแรมโบราณแบบนี้เหลืออยู่แค่เพียงแค่ 6 แห่งเท่านั้น เป็นเมืองการค้าโบราณที่ยังคงรักษาเงาแห่งอดีตเอาไว้ได้อย่างชัดเจน สองฝั่งข้างทางก็จะมีร้านค้ามากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ ร้านขนมและร้านของฝาก ถือเป็นอีกเมืองโบราณที่น่าสนใจที่จะมาเที่ยวในภูมิภาคชูบุเช่นกัน
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3)
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโบราณนาราอิจูกุ (Narai-juku) ตั้งอยู่ที่ จ.นากาโน่ ที่นี่เป็นที่ตั้งของถนนเมืองเก่าตั้งแต่สมัยเอโดะที่มีความยาวที่สุด ทั้งสองข้างทางเรียงรายไปด้วยที่พักแบบชาวบ้านๆ ร้านอาหาร และของฝาก รวมถึงพิพิธภัณฑ์ วัด และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ทั้งเมืองเล็กๆ นี้เต็มไปด้วยบรรยากาศ และกลิ่นอายของประเทศญี่ปุ่นในอดีต แม้ยุคสมัยของเอโดะจะผ่านไปแล้ว แต่บ้านเรือนโบราณในนาราอิ จูกุ ที่สร้างเรียงรายมากกว่า 1 กิโลเมตรนี้ ยังคงอยู่ด้วยการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเพื่อคงความดั้งเดิมให้ได้มากที่สุด ทำให้ยุคเอโดะกลับมามีชีวิตอีกครั้งผ่านที่นี่อีกครั้ง และยังเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเดินเที่ยวชมเมือง รวมถึงมีเรียวกังสำหรับพักค้างคืนได้เพื่อสัมผัสบรรยากาศของเอโดะ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมัตสึโมโต้ (Matsumoto) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับสองของ จ.นากาโน่ เพื่อนำท่านชม ปราสาทมัตสึโมโต้ (Matsumoto Castle) (ถ่ายรูปด้านนอก) 1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ และสวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากสร้างอยู่บนพื้นที่ราบ ในภาษาญี่ปุ่นจึงเรียกว่า ฮิราจิโระ (Hirajiro) ปราสาทแห่งนี้มีเอกลักษณ์ตรงที่มีหอคอย และป้อมปืนเชื่อมต่อกับโครงสร้างอาคารหลัก และด้วยสีโทนมืด ทำให้เกิดความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ และสุขุม จนได้รับฉายาว่า ปราสาทอีกา (Fugashi-Jo) ภายในตกแต่งด้วยไม้ จุดที่น่าสนใจ ได้แก่ บันไดไม้สูงชัน ช่องเก็บหินสำหรับโจมตีศัตรู ช่องสำหรับธนู และหอสังเกตการณ์บนชั้นบน
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก IROHA GRAND HOTEL MATSUMOTO EKIMAE หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (4)
จากนั้นนำท่านสู่ อุทยานแห่งชาติคามิโคจิ (Kamikochi) ดินแดนแห่งธรรมชาติท่ามกลางหุบเขาแสนสวยของเทือกเขา “เจแปน แอลป์” (Japan Alps) เป็นหุบเขาในฝันที่อยู่สูงขึ้นไปทางเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ภาพสายน้ำของแม่น้ำอะซูสะ ที่ใสสะอาดดังเกล็ดแก้วไหลรินลอดผ่านสะพานคัปปะ (สะพานขวัญใจช่างภาพ และมักถูกถ่ายภาพมากที่สุด) ล้อมรอบด้วยผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ และฉากหลังของยอดเขาสูงตระหง่านระดับ 3,000 เมตร เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่จะทำให้ท่านหลงรักและเพลิดเพลินไปกับการเก็บภาพเป็นที่ระลึกว่าได้มาเยือนสักครั้งหนึ่งของการมาเที่ยวญี่ปุ่น ให้ท่านได้ใช้เวลาถ่ายรูป ดื่มด่ำกับบรรยากาศเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นอันสวยงามอย่างเต็มที่ จากนั้นนำท่านสู่ เมืองทาคายาม่า (Takayama) เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ใน จ.กิฟุ ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา และธารน้ำใสจำนวนมาก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)
หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ จากนั้นให้ท่านเดินเล่นต่อ ณ ถนนซันมาจิซูจิ (Sanmachi-Suji Street) ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็น “ลิตเติ้ลเกียวโต” เป็นย่านเมืองเก่าแก่ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งอารยธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีในอดีตของชาวญี่ปุ่นได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งบ้านเรือน ร้านค้า คาเฟ่ และโรงสาเก สร้างขึ้นด้วยไม้แบบโบราณ และยังคงบรรยากาศแบบสมัยเอโดะไว้ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมี วัด ศาลเจ้า สะพาน และตลาดเช้าที่คึกคักเต็มไปด้วยผู้คน ตัวเมืองสวยสะอาด ทันสมัย และมีสภาพธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พาท่านเดินผ่าน สะพานนาคาบาชิ (Nakabashi Bridge) สะพานสามารถเห็นได้อย่างโดดเด่นจากสีที่แดงเข้ม ทำให้เป็นจุดที่สังเกตได้ง่าย อีกทั้งสะพานแห่งนี้ยังถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญจุดหนึ่งของเมืองซึ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และหมู่บ้านแบบดั้งเดิมอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง อีกทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง จากนั้นให้ท่าน ถ่ายรูปกับที่ทำการเก่าทาคายาม่า (Takayama Jinya) (ด้านนอก) ใช้เป็นทั้งที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะมาเป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนโตกุกาว่าในสมัยเอะโดะ หรือกว่า 300 ปีที่แล้ว เป็นที่ทำการรัฐในยุคเอะโดะเพียงแห่งเดียวที่ข้ามพ้นยุคสมัยมาได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งภายในนี้ประกอบด้วยบริเวณไต่สวนพิจารณาคดี ห้องขังนักโทษ โรงครัว และห้องพักของเจ้าหน้าที่ จากนั้นนำท่านสู่ หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawago) เมืองที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น เป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีรูปร่างแปลกตาติดอันดับ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น The most beautiful village in Japan และเป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง โดยมีบ้านทรงแบบ “กัชโชสึคุริ” เป็นบ้านชาวนาโบราณที่มีอายุมากกว่า 250 ปี คำว่า “กัชโช” มีความหมายว่า “พนมมือ” ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงลักษณะรูปแบบของบ้านที่มีหลังคามุงด้วยฟางข้าวที่ทำมุมชันถึง 60 องศา คล้ายสองมือที่ประนมเข้าหากัน ตัวบ้านมีความยาวประมาณ 18 เมตร กว้าง 10 เมตร ทั้งหลังถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู ต่อมา ในปี ค.ศ. 1995 องค์กรยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้ชิราคาวาโกะเป็นมรดกโลกนั่นเอง จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองนาโกย่า (Nagoya) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูบุ (Chubu) และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น ขึ้นชื่อในเรื่องแหล่งอุตสาหกรรม และยังเป็นเมืองท่าที่สำคัญอีกด้วย
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก COMFORT HOTEL NAGOYA FUSHIMI หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
**พักโรงแรมในย่านช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (6)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเกียวโต อีกครั้ง จากนั้นนำท่านสัมผัสประสบการณ์พิเศษ เรียนรู้พิธีชงชาญี่ปุ่น ให้ท่านได้เรียนรู้วิธีชงชาแบบธรรมเนียมญี่ปุ่น มีเซนเซมาสอนการชงชาแบบญี่ปุ่นตั้งแต่การวอร์มอุปกรณ์ การชง และขั้นตอนการดื่ม และยังเปิดโอกาสให้ทุกท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)
จากนั้นนำท่านสู่ ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า “ศาลเจ้าแดง หรือศาลเจ้าจิ้งจอก” เป็นศาลเจ้าชินโต ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเกียวโต บริเวณเขาอินาริ ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงจาก “เสาโทริอิ” (Torii) สีแดงชาดจำนวนหลายหมื่นต้น ซึ่งตั้งเรียงกันเป็นอุโมงค์ทอดยาวตรงไปยังป่าในหุบเขาอินาริ (Mount Inari) อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีความสูง 233 เมตร และเป็นอาณาบริเวณส่วนหนึ่งของศาลเจ้า ผู้คนเชื่อกันว่าภูเขาอินาริ เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่จะเห็นรูปปั้นจิ้งจอกอยู่จำนวนมากภายในศาลเจ้านั่นเอง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโอซาก้า (Osaka) เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคคันไซ บนเกาะฮอนชู ปัจจุบันเมืองโอซาก้า มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีทั้งแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม และมีสวนสนุกระดับโลกขนาดใหญ่ จากนั้นอิสระให้ท่าน ช้อปปิ้ง ณ เอ็กซ์โปซิตี้ (Expo City) ศูนย์รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เอ็กซ์โปซิตี้เป็นส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงงานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่จัดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1970 มีเนื้อที่ทั้งหมดราวๆ 172,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่แห่งนี้มีแหล่งความบันเทิงมากมาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ fusing the enjoyment of playing, learning, and discovering ท่านสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งช้อปปิ้ง กินข้าว หรือแม้แต่ถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย และอิสระ ช้อปปิ้งย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) บริเวณแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าปลีก ร้านแฟรนไชส์ ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านรองเท้า กระเป๋านาฬิกา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ทั้งญี่ปุ่น และต่างประเทศ เช่น Zara, H&M, Beans, ABC Mart เป็นต้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการรวมกันอยู่บริเวณนี้ ใกล้กันท่านสามารถเดินไปยัง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านบันเทิงยามค่ำคืนตลอดแนวถนนเลียบคลองโดทงโบริ จากสะพานโดทงโบริบาชิไปจนถึงสะพานนิปปนบาชิ เช็คอินถ่ายภาพคู่ป้ายกูลิโกะแมน หรือป้ายโดทงโบริกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) เป็นป้ายไฟนีออนรูปนักกรีฑากำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ซึ่งถูกติดตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1935 นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์สถานที่นัดพบกันหลง นั่นก็คือ ร้านปูคานิโดรากุ (Kani Doraku) ซึ่งมีปูยักษ์ขยับแขน และลูกตาได้อีกด้วย และห้ามพลาดสำหรับ “ทาโกยากิ” อาหารท้องถิ่นของชาวโอซาก้า ที่มาถึงถิ่นแล้วต้องลอง
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก HOTEL WBF NAMBA MOTOMACHI หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
**พักโรงแรมในย่านช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (8)
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติคันไซ...
09.55 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน THAI AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ 613 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 6.20 ชั่วโมง
14.20 น. คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ
443/94 ถนนดอนไก่ดี ตำบลตลาดกระทุ่มแบน อำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 74110